​​​​​​​​​​​​​​​​​​​นโยบายการคุ้มครอง​ข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นโดย บริษัท เอส.อาร์.สมาร์ทคาร์ จำกัด  (“บริษัท”)

บริษัทเคารพสิทธิส่วนบุคคลและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ขึ้น เพื่อแจ้งแก่ท่านว่า บริษัทมีวิธีปฏิบัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร โดยมีวัตถุประสงค์ใดบ้าง และมีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัท ทั้งทางเว็บไซต์, แอพพลิเคชั่น, โซเชียลมีเดียและช่องทางอื่น ๆ แก่ลูกค้าและผู้มาติดต่อกับบริษัท แต่ไม่ใช้บังคับกับลูกจ้างและผู้สมัครงานกับบริษัท ท่านยอมรับว่า การที่ท่านใช้บริการของบริษัทผ่านทางช่องทางต่าง ๆ หรือการให้ข้อมูลกับบริษัท ถือว่าท่านได้ยอมรับวิธีปฏิบัติของบริษัทตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้แล้ว ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ บริษัทจึงอาจมีการปรับปรุงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว จึงขอให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นระยะ ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวล่าสุดของบริษัท

เพื่อความสะดวกของท่าน ท่านสามารถกดที่ชื่อของแต่ละหัวข้อเพื่ออ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นรายหัวข้อ ดังนี้

ข้อ 1 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งใดบ้าง

  • จากท่านโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ท่านกรอกขณะลงทะเบียนสมัครใช้บริการ ข้อมูลในการขอใช้บริการ, หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ผู้ใช้บริการติดต่อกับบริษัทหรือทีมงานของบริษัท (เช่น ตัวแทน  หรือข้อมูลที่ได้จากบัญชีผู้ใช้งานอื่น ๆ ข้อมูลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท  การติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ Call Center และช่องทางอื่น ๆ ของบริษัท 
  • เทคโนโลยีการติดตาม (tracking technology) เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์
  • บริษัทในเครือ
  • บุคคลภายนอก เช่น

o  หน่วยงานของรัฐ

o  พันธมิตรทางธุรกิจ

ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น

ข้อ 2 การใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีการติดตาม (tracking technologies) อื่น ๆ

บริษัท ใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีการติดตาม (tracking technologies) อื่น ๆ เช่น Google Analytics และ Facebook Conversion Tracking เพื่อช่วยให้บริษัทเก็บข้อมูล เช่น ชนิดของเบราว์เซอร์ เวลาที่ใช้บริการออนไลน์ หน้าที่เข้าชม URL ที่อ้างอิง การตั้งค่าภาษาและข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์อื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อการแสดงผลข้อมูลที่มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลทางสถิติ และเพื่อพัฒนาประสบการณ์การเข้าชมเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นให้ตรงตามความต้องการของท่านขณะที่ใช้บริการออนไลน์ นอกจากนี้ คุกกี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทสามารถเลือกการโฆษณาหรือข้อเสนอที่ท่านน่าจะสนใจมากที่สุด เพื่อแสดงในขณะที่ท่านใช้บริการออนไลน์หรือ เพื่อส่งอีเมลทางการตลาด และบริษัทยังใช้คุกกี้เพื่อติดตามการตอบสนองต่อโฆษณาออนไลน์และอีเมลทางการตลาด

ข้อ 3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

  • ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วันเดือนปีเกิด, เพศ, สถานภาพสมรส, เลขประจำตัวประชาชน, เลขหนังสือเดินทางหรือข้อมูลยืนยันตัวตนอื่นที่รัฐออกให้, ที่อยู่ไปรษณีย์, สถานที่ทำงาน, หมายเลขโทรศัพท์, ไอดีไลน์, ข้อมูลเบราว์เซอร์ และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของบริษัท
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีเงินฝาก ประวัติทางการเงิน รายการทรัพย์สิน รายการเดินบัญชี
  • ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ข้อมูลการทำธุรกรรมการใช้บริการต่าง ๆ ของท่าน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น หรือโครงข่ายอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่น ประวัติในการเยี่ยมชม ค้นหา และปฏิสัมพันธ์ของท่านกับเว็บไซต์ของบริษัทหรือโฆษณาต่าง ๆ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากคุกกี้ แท็กพิกเซล และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ

ข้อ 4 ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้เสร็จสิ้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า ซึ่งอาจมีกำหนดประมาณ 5 – 10 ปี หรือเกินกว่านั้นเท่าที่จำเป็น เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล

ข้อ 5 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

  • เพื่อบริการให้ตรงตามต้องการของท่าน บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อที่ท่านจะสามารถได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของท่านตามสัญญาหรือตามที่ท่านร้องขอ   การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น การประมวลผล การติดต่อ การแจ้ง การมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอก การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่

หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้

  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ บริษัทมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น

o   มาตรการรักษาความปลอดภัย บริษัทมีการบันทึกภาพ CCTV  ณ ทางเข้าออกบริษัท

o  การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าโดยพนักงานของบริษัท การสื่อสารหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทซึ่งเป็นประโยชน์กับท่านเป็นระยะ ๆ

o   การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทุจริต การคุกคามทางไซเบอร์ การฟอกเงิน และกฎหมายอื่น ๆ

o  วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติหรือประชาสัมพันธ์บริษัท 

ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

  • เพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ เช่น  เพื่อให้ท่านได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น

ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ข้อ 6 บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้กับใครบ้าง

บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อน อย่างไรก็ดี ท่านรับทราบและยินยอมว่า เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลต่อไปนี้

  • บริษัทในเครือ
  • พันธมิตรทางธุรกิจ
  • ผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูล ทั้งในและต่างประเทศ
  • หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย

โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้

นอกจากนี้ บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลผู้ใช้บริการ รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการของบริษัท ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ บริษัทอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 7 สิทธิของท่านในจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล

  • การแก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา โดย โทร: 02-455-8811 ทั้งนี้ การลบข้อมูลอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากบริษัทได้ หรืออาจทำให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากระบบหรือฐานข้อมูลลูกค้าของบริษัทนั้น บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นจะเสี่ยงต่อการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเพื่อเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าบริษัทจะได้ดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการแล้ว ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงมีการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของบริษัท เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ

  • การยกเลิกความยินยอม ท่านสามารถถอนความยินยอมของท่านที่ได้ให้แก่บริษัทเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลหรือกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงต่าง ๆ ได้ทุกเวลาโดยติดต่อมายังบริษัทตามข้อมูลที่ระบุไว้ด้านล่าง

นอกจากนี้ หากท่านไม่ประสงค์จะรับข้อมูลและข่าวสารประชาสัมพันธ์จากบริษัท ท่านสามารถดำเนินการดังนี้

    • กรณีไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารทางโทรศัพท์ : โปรดแจ้งความประสงค์ทาง  โทร: 02-455-8811 
    • กรณีไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล (E-Mail) : ท่านสามารถกด “ยกเลิกรับข้อมูลข่าวสาร” ในอีเมลที่ท่านได้รับจากบริษัทได้ทันที
  • การร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
Scroll to Top