จำนำจอดรถ VS ไฟแนนซ์รถ

เนื่องจากมีพี่ๆน้องๆหลายๆท่าน สงสัยเกี่ยวกับ 2บริการนี้ จำนำจอด กับ ไฟแนนซ์ อยู่อย่างมากว่าบริการไหนดีกว่า แล้วมันดีกว่าอย่างไรล่ะ เราจะมาดูกันครับว่าบริการ 2อย่างนี้ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร อะไรเหมาะกับใคร? และไม่เหมาะกับใคร?

1. จำนำจอดรถ ชื่อบอกอยู่แล้วว่าต้องจอดรถ

หลายๆคนอาจรู้สึกอันตรายเมื่อต้องจอดรถเพราะกลัวรถโดนเอาไปใช้ หรือโดนขโมย ปัญหานี้ผมขอตัดออกไปนะครับ เนื่องจาก เอส.อาร์.สมาร์ทคาร์ขึ้นชื่อเรื่องสุดยอดด้านการให้บริการดีเป็นอันดับ#1 อยุ่แล้ว เราจะมาวัดกันที่ความคุ้มค่ากันแบบเนื้อๆเน้นๆ การที่เรามีสินทรัพย์มาค้ำประกันในการกู้ยืมเงิน ย่อมต้องได้อะไรดีๆกว่าไม่ค้ำอยุ่แล้วครับ อย่าคิดว่าการจำนำจอดรถเป็นทางเลือกของคนที่จัดไฟแนนซ์ไม่ได้ครับ มันผิดอย่างร้ายแรง! แต่ดีอย่างไรเดี๋ยวเปรียบเทียบในตารางให้ดูด้านล่างนะครับ

2. ไฟแนนซ์รถ อันนี้ไม่ต้องจอดรถครับ

หลายๆคนอาจมองว่าการทำไฟแนนซ์นั้นดี ก็ต้องบอกตามความเป็นจริงว่า การทำไฟแนนซ์ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีมากๆช่องทางหนึ่ง เพราะดอกเบี้ยต่ำ แต่มีข้อแม้นะครับว่า จะต่ำและคุ้มก็ต่อเมื่อเป้าหมายในการกู้ยืมเงินนั้นเป็นแบบระยะยาว มีข้อดี ย่อมมีข้อเสีย นั่นก็คือการโดนบังคับเรื่องระยะเวลาการทำเช่น 6ปี เมื่อเรามีเงินอยากจะปิดยอดนี้กับทางธนาคาร ธนาคารลดดอกเบี้ยในส่วนที่เหลือให้เพียง 50% นั่นแปลว่าหากเราใช้ไป 1ปี จัดไว้ 6ปี แล้วเกิดอยากปิดยอดกู้นี้ ธนาคารจะชาตค่าธรรมเนียมส่วนต่างดอกเบี้ยเราถึง 3ปีครึ่งกันเลยทีเดียว รวมถึงบังคับทำประกันรถ และประกันชีวิตแรกเข้า บลาๆๆ ที่ธนาคารบังคับ จุดนี้ทำให้ 2บริการนี้แตกต่างกันอย่างชัดเจนเราไปดูตารางกันครับ

เทียบความคุ้มค่า จำนำจอด กับ ไฟแนนซ์

คุณลักษณะ	จำนำจอดรถ	ไฟแนนซ์รถ
ต้องการใช้เงินระยะสั้นเวลา 1-6 เดือน	จำนำจอดชนะ(คุ้มกว่าประหยัด)	ไฟแนนซ์แพ้
ต้องการใช้เงินระยะยาวเวลา 2-6 ปี	จำนำจอดแพ้	ไฟแนนซ์ชนะ(คุ้มกว่าประหยัด)
ต้องจอดรถเพื่อค้ำประกัน	จำนำจอดแพ้(ต้องจอด)	ไฟแนนซ์ชนะ(ไม่ต้องจอด)
ต้องมีบุคคลคำประกันในการกู้	จำนำจอดชนะ(ไม่ต้องค้ำ)	ไฟแนนซ์แพ้(ต้องค้ำ)
ยอดกู้บริการไหนได้เยอะกว่า	จำนำจอดแพ้	ไฟแนนซ์ชนะ(กู้ได้เยอะกว่า)
ความเร็วในการกู้ยืมแบบใจสั่งได้	จำนำจอดชนะ(ได้เงินใน10นาที)	ไฟแนนซ์แพ้
ค่าใช้จ่ายแรกเข้า	จำนำจอดชนะ(มีแค่ค่าดูแลรถ+ดอกเบี้ย)	ไฟแนนซ์แพ้(มีค่าจัดโอน+ดอกเบี้ย+ประกันตามที่ธนาคารบังคับ)

สรุปบริการทั้ง2ตัวนี้ มันคุ้มกันคนละด้านครับ

โดยหลักๆจะเป็นเรื่องเงื่อนไขของระยะเวลาที่เราต้องการจะใช้ว่ายาวแค่ไหน และด่วนแค่ไหน

หากใช้เงินระยะสั้นๆ

หากใช้เงินระยะยาวๆ

ถ้าอ่านกันมาถึงนี่ ก็เชื่อว่าตอนนี้พี่ๆน้องๆก็น่าจะรู้ว่าบริการไหน เหมาะกับความต้องการของตัวเองแล้วนะครับ ก็ขอฝากไว้เป็นเกณฑ์การตัดสินใจเพื่อความคุ้มค่าของพี่ๆน้องๆทุกคน เราอยากช่วยเลือกบริการที่คุ้มค่ามากที่สุดให้ครับ